วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558
The special one จอมโอหัง
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน บทความนี้ใช้เวลาห่างกันพอสมควรจากบทความที่แล้วนะครับ ตัวผู้เขียนเองติดภารกิจที่ต้องปฏิบัติเร่งด่วน ต้่องขออภัยท่านผู้อ่านมานะโอกาสนี้ด้วยครับที่ต้องรอนาน
อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ศึกฟุตบอลในลึกชั้นนำในต่างประเทศก็จะเริ่มทำการแข่งขันกันแล้วครับ โดยเฉพาะ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ทุกท่านคงใจจดใจจ่อรอคอยมานานก็จะอุบัติขึ้นในวันเสาร์ ที่ 7 ส.ค.58 ที่จะถึงนี้ แต่ก่อนจะเริ่มต้นฤดูกาลก็จะมีนัดพิเศษเกิดขึ้นทุกปีเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เป็นการแข่งขันในรายการการกุศล ที่เรียกกันว่า community shield โดยจะนำเอา แชมป์พรีเมียร์ลีก กับ แชมป์ FA Cup มาทำการแข่งขันกัน ชิงถาดแชมป์ ซึ่งปีนี่เป็นการแข่งขันระหว่าง 2 ทีมยักษ์ใหญ่แห่งเมืองหลวง อย่าง เชลซี (แชมป์พรีเมียร์ลีก) กับ อาร์เซ่นอล (แชมป์ FA Cup) ในปีที่แล้ว การแข่งขันเริ่มดุเดือดตั้งแต่ยังไม่เริ่มเกม ประเด็นก็คือว่า ผู้จัดการทีมของทั้งสองทีม ไม่ค่อยถูกชะตากันสักเท่าไหร่ ทั้ง มูรินโญ่ และ อาร์แซน เวนเกอร์ ต่างสาดน้ำลายใส่กัน เล่นสังครามจิตวิทยา โดยสถิติที่ทั้งคู่พบกันปรากฏว่า เวนเกอร์ ไม่เคยเอาชนะ น้ามู ได้เลย จึงทำให้เวนเกอร์มีความกระหายที่จะเอาชนะให้ได้ โดยเวนเกอร์ได้กล่าวว่า ""สถิติมีไว้เพื่อทำลาย"" เมื่อการแข่งขันจบลง ลูกทีมของ เวนเกอร์ ก็สามารถเอาชนะไปได้ ด้วย สกอร์
1 : 0 ด้วยการยิงอันสุดสวยของช่างอ๊อกเหล็ก แชมเบอร์เลน แต่ที่น่าสนใจไม่ใช่การแข่งขันแต่เป็นพฤติกรรมอันน่ารังเกียจของผู้จัดการทีมทั้งสองฝ่ายที่ไม่มีสปีริตในการแข่งขัน ไม่ยอมจับมือกันทั้งก่อนและหลังที่การแข่งขันจบลง แต่ที่แย่ไปกว่าคือพฤติกรรมของ โจเซ่ มูรินโญ่ ที่ไม่ให้เกีรยติรายการแข่งขันนี้ เพราะเขาไม่ยอมรับเหรียญร่างวัลที่ได้จากการเป็นฝ่ายแพ้ และโยนเหรียญรองชนะเลิศ ที่ได้รับนั้นให้กับแฟนบอล โดยเขาได้บอกว่า "เขาไม่ต้องการรางวัลของผู้แพ้" ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวตัวผมเองรู้สึกว่า น้ามู ทำตัวไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้จัดการทีมระดับโลก ที่มีทั้ง วัยวุฒิ และ คุณวุฒิ และเกียรติประวัติความสำเร็จมากมาย เขาน่าจะทำตัวเองเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้จัดการทีมรุ่นหลังบ้าง ไม่ใช่ใช้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผลแบบนี้ จริงอยู่นิสัยโดยส่วนตัวของ มูรินโญ่ เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง (Ego) แต่การแข่งขันรายการนี้นับว่าเป็นรายการที่เก่าแก่ และมีประวัติมายาวนาน มีการแข่งขันถึง 93 ครั้ง และยังเป็นรายการแข่งขันที่จัดขึ้นมาเพื่อการกุศลอีกด้วย ซึ่งตัวเขาเองก็ทราบดี การกระทำของเขาครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติการแข่งขันอย่างรุนแรง เขาควรหัดที่จะยอมรับความพ่ายแพ้บางไม่ว่าจะกับทีมไหน เพราะความพ่ายแพ้มันคือส่วนหนึ่งของเกมการแข่งขัน ไม่มีใครที่จะเป็นฝ่ายชนะไปตลอด ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่ผู้จัดการทีมจอมโอหังคนนี้ ต้องทำคือการออกมาขอโทษต่อสิ่งที่เขาการกระทำลงไป ไม่ว่าจะด้วยอารมณ์หรือตั้งใจก็ตาม เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีและรักษาไว้ซึ่งเจตนารมณ์ที่ดีของการแข่งขันกีฬา คือ น้ำใจ และ ความสามัคคี ผมเชื่อว่าทุกคนพร้อมที่จะให้อภัยเขาอย่างแน่นอน
****************ขอบคุณที่ติดตาม********************
เครดิตภาพจาก Mthai
รายได้เสริม 6 หลัก ที่ทำได้ที่บ้าน รับข้อมูลฟรี!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น