** คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ฟุตบอลเป็นเกมกีฬาที่มีความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ และเป็นอะไรที่กระชากอารมณ์ได้เป็นอย่างดี.....ถ้าคนที่ชื่นชอบและได้ติดตามดูการแข่งขันเป็นประจำจะรู้เลยว่า เวลาที่ทีมตัวเองเชียร์อยู่เล่นไม่ได้อย่างใจ....จะตะโกนด่าจนคอแหบคอแห้ง และ แทบจะกระโดดเข้าไปในทีวีเลยที่เดียว...ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม ฟุตบอล จึงเป็นเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และได้กระจายไปทั่วโลก.....
แต่เรื่องที่เราจะมาพูดคุยกันในบทความนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ จิตวิทยา กับ ฟุตบอล ซึ่งมีความ........
เกี่ยวข้องกันแบบไม่น่าเชื่อ จิตวิทยา นั้นมีผลอย่างไร กับการเล่นฟุตบอล ถ้าลองสังเกตุจากทีมที่ประสบความสำเร็จ ในโลกฟุตบอลปัจจุบัน อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูในเต็ด หรือ รีล มาดริด จะเห็นได้ว่า ไม่ใช่แค่คุณภาพของนักเตะ อย่างเดียวที่จะทำให้ทีมประสบความสำเร็จ หรือ เป็นแชมป์ได้ ต้องมีองค์ประกอบหลายๆ อย่างเข้ามารวมกัน
ผู้จัดการทีม ถือเป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะกำหนดทิศทางของทีมว่าจะให้ทีมไปไกลถึงขนาดไหน ถ้าจะพูดกันถึงเรื่อง แผนการเล่น แทคติก หรือ การฝึกซ้อม การแก้เกม ผู้จัดการทีมชั้นนำหลายคน คงจะมีไม่ต่างกัน แต่ปัจจัยที่สำคัญ ที่จะพาทีมไปถึงฝั่งฝันนั้น สิ่งพื้นฐานเหล่านี้คงจะไม่เพียงพอ สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่า เป็นตัวกำหนดผลการแข่งขัน และความสำเร็จของทีม ก็คือ สภาพจิตใจ ของผู้เล่น ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากเปรียบทีมฟุตบอล เหมือนกับ กองทัพ การลงแข่งขัน คือ การออกรบ กับข้าศึก
หากทหารมีจิตใจที่ห่อเหียวขวัญและกำลังใจไม่ดี.....การที่จะชนะสงครามคงจะเป็นเรื่องที่ยาก แต่ถ้ามีจิตใจที่รุกรบ แข็งแกร่ง ต่อให้มีจำนวนไม่มากก็สู้ไม่ถอย ....โอกาสชนะก็ย่อมจะมี ยกตัวอย่าง ทหารของชาว " สปาร์ตัน" ที่มีจำนวน แค่ 300 คน แต่สามารถต้านทาน กองทัพของเปอร์เซีย หลายแสนคน ได้นานถึง 3 วัน ชาวสปาร์ตัน ที่มี กษัตริย์ ลีโอไนดัส เป็นผู้นำ เป็นนักรบที่มีจิตใจที่แข็งแกรงอย่างมาก แม้จะไม่เหลืออาวุธในมือ ก็ยังใช้ทุกส่วนของร่างกายต่อสู้จนตัวตาย.....
ฟุตบอลก็คงไม่ต่างจากการสู้รบ ต้องมีการวางแผน มีการกระตุ้นจิตใจให้หึกเหิม ก่อนลงทำการแข่งขัน กัปตันทีม ก็เหมือนกับแม่ทัพ นำทหารออกรบ ผู้จัดการทีม ก็เหมือนกับกษัตริย์ ที่ต้องวางแผนและคอยปลุกเร้าจิตใจ อย่างเช่น ท่านเซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ที่พาทีม แมนยู ประสบความสำเร็จมากมาย ไม่ใช่แค่เพราะแผนการเล่น เท่านั้นที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ แต่เพราะจิตวิทยา และ การแสดงออกทางร่างกาย สีหน้า และ อารมณ์ ทุกครั้งที่ทีมเสียเปรียบ หรือ ตกเป็นฝ่ายตามหลัง จะเห็นชายผู้นี้ออกมากระตุ้นนักเตะ และ กดดัน กรรมการ ซึ่งหลายนัดทำให้แมนยู พลิกกลับมาชนะได้ ในช่วงท้ายเกม การแสดงออกต่างๆ ที่ข้างสนามมีผลต่อฟอร์มการเล่นของนักเตะ เพราะทุกครั้งที่นักเตะหันมาเจอผู้จัดการทีม...ที่มีอารมณ์ร่วมในเกม...ก็ต้องคอยเตือนตัวเองว่าต้องทำให้ดี มันเป็นพลังที่ส่งให้กับนักเตะอย่างไม่รู้ตัว......ต่างจาก การนั่งกัดเล็บ หรือ นั่งกุมหัว ซึ่งยิ่งมองก็ยิ่งทำให้ห่อเหียวใจ ทุกครั้งที่ทีมต้องตกเป็นรองคู่แข่ง จิตใจก็ตกต่ำอยู่แล้ว ยิ่งไม่มีคนคอยกระตุ้นอีก ก็คงแย่ไปกันใหญ่
อีกคนหนึ่ง ที่ทำได้ดีในเรื่องของจิตวิทยา ที่ผมอยากจะกล่าวถึง ซึ่งผมมีความชื่นชอบเป็นส่วนตัว ก็คือ JK หรือ เยอร์เก็น คล๊อป ของ เหล่า The Kops นี่แหละ เพราะสิ่งที่เขาแสดงออกมาแต่ละครั้งนั้น มีผลต่อจิตใจของนักเตะ อย่างมาก ไม่ว่าทีมจะอยู่ในช่วงที่ทำผลงานได้ดี หรือ ไม่ดี ชายคนนี้ ไม่เคยออกมาตำหนิ นักเตะ ของเขาเลย และ ทุกครั้งที่เกมจบลง เขาจะเข้าไปสวมกอด กับนักเตะของเขาทุกครั้ง ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ซึ่งเห็นได้ยากมากจาก ผู้จัดการทีม ดังๆ หลายคน การสนิทสนมกับนักเตะ อย่างเป็นกันเอง ของเขา ทำให้ทีมไม่มีเรื่องขัดแย้งภายใน นักเตะเองก็มีความสามัคคี ทำให้ทีมสปิริตดี ยกเว้น กับ มามาดู ซาโก้ คนเดียว ซึ่งผมเข้าใจว่า ตัวนักเตะเอง น่าจะล้ำเส้นที่ เขากำหนดไว้...................
มาถึงตอนนี้ คงจะพอเข้าใจในเรื่องของจิตวิทยา นะครับว่ามีความสำคัญกับฟุตบอลขนาดไหน โยงไปถึงการดำเนินชีวิตของเราเช่นกัน หากวันใดที่เราท้อถอย เราเองก็ไม่อยากจะทำอะไร การที่มีจิตใจที่ดีและแข็งแกร่งจึงเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญ เพราะทุกการกระทำมันเป็นผลจากความคิดของเราทั้งสิ้น ถ้าเราคิดบวกคิดแต่เรื่องดีๆ ชีวิตของเราก็จะดีไปด้วย แต่ถ้าเราเป็นคนที่คิดแต่เรื่องลบๆ ชีวิตเราก้จะตกต่ำลง เช่นเดียวกับความคิดเรา ผมเชื่อว่าไม่มีอะไร ที่มันยากเกินไป ถ้าเราคิดจะทำ...........
#ขอบคุณที่ติดตาม
#Pairoj13
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น