28 มิ.ย.60 นับถอยหลังอีก 2 วัน ตลาดซื้อขายนักเตะ ก็จะเปิดอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ ช่วงนี้หลายๆทีมก็กำลังขมักขเม่น ในการเสริมทัพ ของทีมตัวเอง ให้พร้อมต่อสู่ ในการแข่งขันที่ยาวนานในปีฤดูกาลหน้า บางทีมก็ได้นักเตะใหม่เข้ามาบ้างแล้ว บางทีม ก้ตัวผู้จัดการทีมใหม่ ในบรรดาลีกต่างๆในทวีปยุโรป ลีกที่น่าสนใจและเนื้อหอมที่สุด ก็คงจะเป็น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทั้งนักเตะ และ ผจก.ทีม ต่าง พร้อมใจกันอยากมาหาความท้าทายในลีกแห่งนี้ ทุกคน เรียกได้ว่า พรีเมียร์ลีก ได้กลายเป็นศูนย์ ของ นักเตะ และ ผจก.ทีม ระดับโลกไปแล้ว ผจก.ระดับโลก มากมายหลายคนเคยทำงานใน พรีเมียร์ลีก
ปัจจุบัน นี้ ผจก.ทีม ระดับโลก รุ่นใหม่ๆ ก็อยู่กันครับ เป้ป กวาดิโอล่า ,มูรินโญ่ ,เยอร์เก้น คล๊อป ,
อันโตนิโอ คอนเต้ ล่าสุด ก็ แฟรงค์ เดอบัว ที่ถือว่าเป็น ผจก.ทีม รุ่นใหม่ ไฟแรงอีกคน ที่ตกลง รับงาน กับ คริสตัล พาเลช เป็นที่เรียบร้อย โดยเซ็นสัญญา 3 ปี และเชื่อว่ายังมีอีกหลายคน ที่พร้อมจะเข้ามาหาความท้าทายในลีก แห่งนี้
จากทิศทางของตลาดนักเตะที่ได้ติดตามมา คาดการณ์ว่า ตลาดซื้อขายปีนี้ คงจะมีการสร้างสถิติใหม่เกิดขึ้น อย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นนักเตะคนไหนนั้นต้องคอยติดตามกัน ตัวเก็ง ที่จะสร้างสถิติใหม่นั้น มีอยู่ 4 คน ด้วยกัน 1.คิเลี่ยน เอ็มปับเป้ เจ้าหนูวัย 18 ปี จาก โมนาโค 2.เอเดน อาร์ซาร์ จากค่ายสิงห์ น้ำเงิน 3.แฮรี่ เคน จาก คลับ ไก่ และ สุดท้าย 4.เปาโล ดิบาล่า จาก ม้าลาย จากรายชื่อแล้วแต่ละคน ดีกรีไม่ธรรมดา จริงๆ แต่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอยู่กับว่าจะมีทีมไหน บ้าเลือด ควักกระเป๋าจ่าย เพื่อนักเตะคนเดียว อย่างที่ ยูไนเต็ด ยอมจ่าย 89 ล้านปอนด์ กับ เจ้า หมาบ้า(ดร็อกบา) รึเปล่า 5555 อันนี้ล้อเล่น
มาดูทางฝั่งบ้านเรากันบ้าง ในเลกที่ 2 ก็เริ่มที่จะเสริมทัพกันบ้างแล้ว แต่สิ่งที่ฮืออาและเป็นข่าวดังในช่วงนี้ ก็คือ การกลับมารับงานคุมทีม ของ โค้ช ซิโก้ เกรียติศักดิ์ กับทีม การท่าเรือ โดยมี เจ๊ แป้ง เป็นหัวเรือใหญ่อยู่ การกลับมาคราวนี้ เป็นการหวนกลับมาคุมทีมระดับสโมสร อีกครั้ง ของ โค้ช ซิโก้ ซึ่งก่อนจะมาคุมทีมชาติ ซิโก้ เคยคุมทีม สโมสร BBCU มาก่อน แต่การคุมทีมคราวนั้น เรียกได้ว่า ผลงานไม่ค่อยดีเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะทรัพยากร ในทีม หลายอย่าง ที่ไม่พร้อม การกลับมาคุมทีมการท่าเรือ ครั้งนี้ คงจะเป็นบทพิสูจน์ ฝีมือของ โค้ช ซิโก้ อย่างแท้จริง เพราะไม่ว่า จะเป็นเรื่องของ งบประมาณ สภาพความพร้อมของทีม ที่มีให้ค่อนข้างที่จะสมบูรณ์ แถมยังมี มาดามแป้ง หนุนหลังอย่างเต็มที่อีก ถ้าหากล้มเหลว ก็คงจะโทษอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากตัวเอง
ตามชื่อเรื่องของเราในวันนี้ เราจะลองแสดงความคิดเห็นกันว่า ระหว่าง การคุม ทีม "สโมสร กับ ทีมชาติ แบบไหน ยาก กว่ากัน" และ มีข้อแตกต่างกันยังไง ผมขอแยกออกเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ
#การบริหารจัดการ
สโมสร : บริหารจัดการได้ง่ายกว่า เพราะมีกลุ่มผู้บริหารที่ไม่มาก ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สามารถคุยกันได้ง่าย ตัดสินใจได้เลย
ทีมชาติ : มีการบริหารจัดการที่เป็นขั้นตอนมากกว่า หลายขั้นตอน หลายระดับ การทำงานในทีมต้องขั้นอยู่ ตัวผู้บริหารสมาคม
#การคัดเลือกนักเตะ
สโมสร : การคัดเลือกนักเตะ เรื่องนี้คงจะเป็นข้อด้อยของแต่ละสโมสร เพราะต้องขึ้นอยู่กับ งบประมาณภายใน อาจจะมีทรัพยากรนักเตะให้เลือกใช้อย่างจำกัด ปัจจัยนี้ คือ ตัวชี้วัดความสามารถของโค้ชได้เป็นอย่างดี ในการจัดการระบบทีม การบริหารนักเตะ และ การดึงศักยภาพนักเตะให้สามารถใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด
ทีมชาติ : ไม่มีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่น สามารถเลือกได้อย่างเต็มที่ ตามสไตล์การทำทีมของ โค้ชแต่ละคน
#ระบบทีม แท็กติก
สโมสร : ต้องมีระบบการเล่น และแท็กติกที่ชัดเจน กำหนดแนวทางของทีมได้ ว่าจะให้เป็นแบบไหน สไตล์ไหน ที่จะนำมาใส่ให้กับทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาพอสมควร ในการสร้างทีม ตามแนวทางของตัวเอง ซึ่งถือเป็นงานที่ยากพอสมควร สำหรับทีมระดับสโมสร การที่ต้องใช้เวลาแข็งขันกันเป็นเวลานานหากไม่มีระบบทีมที่ดีแล้วยากที่จะประสบความสำเร็จ เราจะเห็นว่า หลายสโมสรที่เปลี่ยนโค้ชบ่อยๆ มักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก นอกจาก ทีมนั้นจะเป็นทีมที่ใหญ่ และ รวยจริงๆ เท่านั้น เพราะการใช้เงินซื้อความสำเร็จ ต้องลงทุนสูงมากจริงๆ
ทีมชาติ : เนื่องจากทีมชาติ คือ ฟุตบอล ที่แข่งขันกันเป็นระยะเวลาสั้น การจัดการระบบทีม อาจจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตาม คู่แข่ง ตาม ทัวนาเมนต์ นั้นๆ ผจก.จำเป็นที่จะต้องเป็นคนที่ เก่งทางด้าน แท็กติก เป็นอย่างมาก ถึงจะทำทีมให้ประสบความสำเร็จได้
#สรุปในความคิดผม
คิดว่า การคุมทีม ทั้งสองแบบ มีความยากที่ต่างกัน และ ต้องการ โค้ชที่มีความสามารถ ที่แตกต่างกันออกไปด้วย จากที่สังเกตุมา จะเห็นว่า มี ผจก.ทีม ระดับโลก ที่ประสบความสำเร็จกับทีม ระดับสโมสรแต่ล้มเหลวในการคุมทีมชาติ และ ก็มี ผจก.ทีมอีกไม่น้อย ที่ประสบความสำเร็จ กับทีม ชาติ แต่ต้อง มาล้มเหลวกับ ทีมระดับสโมสร อันนี้มันขึ้นอยุ่กับว่า ผจก.ทีม คนนั้น จะเชี่ยวชาญ ในการคุมทีมแบบไหน
การคัดสรร ผู้กุมบังเหียนของทีม คือ สิ่งสำคัญ ที่จะกำหนดว่า ทีมจะประสบความสำเร็จ หรือ ไม่
แล้วเพื่อนละ คิดยังไง...................................
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
#ขอบคุณที่ติดตาม
#Cap.rojer13
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น