วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เอฟเวอร์ตัน มิติใหม่

         ช่วงนี้ตลาด ซื้อ-ขาย นักเตะกำลังคึกคัก กันอย่างมาก ทีมยักษ์ใหญ่หลายๆทีมต่างขยับตัว ไล่ล่านักเตะที่ตัวเองต้องการ มาไว้ในครอบครอง ซึ่งบางทีม ก็สมหวัง บางทีมก็ผิดหวัง ปัจจัยสำคัญในการ  ซื้อขาย ก็คงหนี้ไม่พ้น เรื่องของเงิน ณ เวลานี้ ทีมที่ ซื้อนักเตะเข้ามามากที่สุด คงจะเป็นทีมไหนไม่ได้ นอกจากทีม เศรษฐีใหม่ อย่าง เอฟเวอร์ตัน ที่ได้ ฟาร์ฮัด โมชิริ นักธุรกิจ สายเลือด อิหร่าน เข้ามา
เทกโอเวอร์ สโมสร ซึ่งเขาเองพร้อมที่จะสนับสนุน โรนัล คูมัน ผจก.ทีม ให้นำ เอฟเวอร์ตัน ท้าทายทีม ท็อป 6 ของ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลหน้า

เวนย์  รูนี่ อดีตเด็กปั้นของสโมสร คือ นักเตะคนล่าสุด ที่ย้ายกลับมาเล่นให้กับทีม หลังจากที่
เอฟเวอร์ตัน ได้นักเตะ มาแล้ว 5 คน คือ

1.จอร์แดน พิคฟอร์ด  จาก   ซันเดอร์แลนด์  
2.ดาวี่  คลาสเซ่น       จาก   อาแอ็กซ์
3.เฮนรี่  ออเยนกูรู      จาก    เออเปน
4.ซานโดร  รามิเรซ    จาก    มาลาก้า
5.ไมเคิล   คีน             จาก    เบิร์นลี่

รวมแล้ว เอฟเวอร์ตัน ใช้เงินไปแล้ว เกือบ 100 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นการลงทุนมากที่สุดในประวัติศาสตร์  139 ปี ของสโมสร และ เดอะ ทอฟฟี่ ยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ ล่าสุดมีข่าวว่า ต้องการตัว กิลฟี่  ซิกูร์สัน
กองกลางตัวเก่ง ของ สวอนซี ซิตี้ มาเสริมทีมอีก งานนี้เรียกว่า เอฟเวอร์ตัน ต้องการยกระดับทีมให้เทียบกับ ทีม ในท็อป 6 แบบทันตาเห็น

พูดถึงประเด็นของ เวนย์  รูนี่ อดีตกับตันทีม ผีแดง ที่ย้ายกลับมาเล่นให้กับทีมรัก หลังจากออกไปประสบความสำเร็จ  ผีแดง มานาน ก็มาถึงจุดที่เป็นช่วงขาลง ในอาชีพนักเตะ ของเขา บทบาทในทีม
ผีแดง เริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ ประกอบกับ นักเตะที่ซื้อเข้ามาใหม่ อย่าง มาร์ซิยาล  และ นักเตะ ดาวรุ่ง หลายๆ คน เช่น มาร์คัส แรทฟอร์ด เริ่มจะเล่นได้ดี ยิ่งแสดงให้เห็นว่า รูนี่ ไม่มีที่ยืน ในสโมสร แล้ว    พอมาถึง ยุค ของ โซเซ่  มิรินโญ่ ก็ถึงจุดสิ้นสุด ของ เวนย์ รูนี่ ในโรงละครแห่งความฝัน การหวนกลับมายังบ้านที่เขารักจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ของ เวนย์ เพราะทุกอนูในสายเลือดของเขาคือ สีน้ำเงิน มาโดยตลอด


ตัวเขาเอง คือ นักเตะที่น่ายกย่องอีกคนหนึ่งของ วงการ ฟุตบอล รูนี่ เลือกที่จะ ปฏิเสธเงิน จำนวน มหาศาล ที่เขาจะได้รับ ทั้งใน ลีก จีน และ ทางฝั่ง สหรัฐ อเมริกา เพราะเขาคิดว่า เขามีมากพอแล้ว การได้กลับมาบ้าน คือ สิ่งที่เขาต้องการมากมีสุด เพราะไม่มีที่ไหน มีความสุข มากกว่าอยู่ที่บ้าน การมาช่วยเติมเต็ม และพัฒนาทีม ที่เขารัก จากการใช้ประสบการณ์ และความสำเร็จที่เขามี จึงเป็นสิ่งที่เขาควรทำมากที่สุด เพราะไม่มีอะไรจะสำคัญเท่ากับ การได้เห็นทีมที่รัก ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างภาคภูมิใจ

มนุษย์เรา เมื่อมีขาขึ้น ก็มีขาลง เป็นเรื่องธรรมดา "สูงสุด คือ การคืนสู่สามัญ" ไม่มีใคร สามารถ หนี กฎเกณฑ์ แห่ง ธรรมชาติไปได้

กลับมาที่ ทีม เอฟเวอร์ตัน เมื่อมี ลูกหม้อ อย่าง รูนี่ กลับมาช่วย ทีม  จะส่งผลดีกับทีมอย่างมาก เพราะ รูนี่ คือ นักเตะ ระดับ ซุปเปอร์สตาร์ ประสบการณ์ และ ความเป็นผู้นำ ของเขา จะส่งผลในเรื่องของจิตใจ ให้นักเตะภายในทีม มีความฮึกเหิม และทุ่มเทให้กับทีมได้อย่างเต็มที่

ในฤดูกาลแข่งขัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก  2017-2018 ที่กำลังจะมาถึงในเดือน สิงหาคม นี้ เราคงจะได้เห็น ทีม เอฟเวอร์ตัน  ใน มิติใหม่  ที่ดูแปลกตาออกไปจากเดิม และ พร้อมที่จะท้าทาย กับ ยักษ์ใหญ่
ทุกทีม ในพรีเมียร์ลีก ต้องคอยดูว่า เอฟเวอร์ตัน ทีมนี้ จะไปได้ไกลขนาดไหน

#Cap.rojer13
#ขอบคุณที่ติดตาม




วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เยอรมัน สายเลือดใหม่

ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2017

        ปิดฉากลงไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับฟุตบอลรายการนี้ ซึ่งกระแสความนิยม อาจจะมีไม่มากเท่าที่ควร เนื่องจาก ถูกข่าวการซื้อขายนักเตะ ต่างๆ กลบกระแสหมด อันที่จริงแล้ว ฟุตบอลรายการนี้เหมือนเป็น การอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อม สำหรับเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปีต่อไปมากกว่า รายการเล็กๆที่มีทีมไม่เล็กร่วมแข่งขัน กัน จำนวน 8 ทีม โดยคัดเลือกจาก แชมป์ของแต่ละทวีป และ แชมป์ฟุตบอลโลก ครั้งล่าสุด บวกกับเจ้าภาพฟุตบอลโลก ปีถัดไป ถือเป็นรายการอุ่นเครื่องที่มีคุณภาพคับแก้วทีเดียว    


         ทีมชาติ เยอรมัน คือ ทีมที่ได้แชมป์ทีมล่าสุด ซึ่งดูจากรายชื่อนักเตะในทีมแล้ว ต้องบอกว่า เยอรมันชุดนี้ คือ ทีมพลังหนุ่ม สายเลือดใหม่ อย่างแท้จริง แต่คนที่ยังกุมบังเหียนอยู่ยังเป็นคนเดิมที่เข้าใจ ทุกรายละเอียดของทีมชาติเยอรมัน โยอาคิม เลิฟ คลุกคลี กับเด็กๆชุดนี้มานานและได้เห็นพัฒนาการของพวกเขาอย่างชัดเจน ตั้งแต่ ยูเลี่ยน เดร็กเลอร์ กัปตันทีม ที่ติดทีมชาติมาตั้งแต่ ตอนเป็นดาวรุ่ง โจซัว คิมมิช ,โยนาส เฮ็คเตอร์ ,มัสเทอัส กินเทอร์ รวมถึง เอ็มเร่ ชาน นักเตะของ เยอรมัน ชุดนี้ ส่วนใหญ่แล้ว เล่นอยู่ใน บุนเดสลีกามาก่อน  ทำให้ บอสใหญ่ สามารถติดตามดูนักเตะ
ได้อย่างทั่วถึง และใกล้ชิด เขาเห็นพัฒนาการของเด็กทุกคน แล้วรู้ว่าจะใช้เขาเหล่านั้นยังไง 
         สไตล์การเล่นของเยอรมัน ในยุคของ เลิฟ นั้นดูจะเป็นสไตล์ที่แตกต่างจาก เยอรมัน เมื่อก่อน ที่เน้นเล่นลูกกลางอากาศ ซึ่งเราจะเห็นศูนย์ที่มีรูปร่างใหญ่และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี อย่าง โอลิเวอร์ เบียฮอร์ฟ ,โคลเซ่,มาริโอ โกเมซ ยืนเป็นหน้าเป้าตลอด มาในยุคของเลิฟ เขาได้เปลี่ยนแปลงสไตล์ให้มีการเข้าทำที่หลากหลาย มีการเล่นบนพื้น การครอสจากด้านข้าง มีการใช้ลูกทะลุช่อง โดยใช้ความเร็วของศูนย์หน้า ซึ่งด้วยสไตล์แบบนี้ ทำให้เขาพาทีมประสบความสำเร็จมาโดยตลอด และทีมชาติเยอรมัน ไม่เคยขาดศูนย์หน้าดีๆ เลย ล่าสุดที่ระเบิดฟอร์มแจ่ม ก็ Timo  Werner หัวหอก ของ RB Leipzig ที่กระทุ้งตาข่าย ไป 3 ลูก คว้ารางวัล ดาวซัลโว ของรายการนี้ไปครอง เด็กหนุ่มคนนี้ผมเคยเขียนไว้ ว่าจะเป็น กองหน้าอนาคตไกลอีกคนหนึ่งของวงการ ไปติดตามอ่านได้ที่
10 ศูนย์หน้าอนาคตไกล
ด้วยสไตล์การเล่น ที่เต็มไปด้วยทักษะ การเคลื่อนที่ที่ดี การอ่านเกม และ ความเร็ว เรียกได้ว่าเป็นกองหน้าที่มีความครบเครื่องในตัว คาดว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าระดับโลกในอนาคตได้อย่างแน่นอน
         เยอรมัน พลังหนุ่ม ชุดนี้ ของ โยอาคิม เลิฟ นั้นมีพิษสง รอบตัว เริ่มตั่งแต่ ผู้รักษาประตู มาร์ค เตอร์ สเตเก้น ที่สามารถออกมาตัดบอล และใช้เท้าในการเล่นได้ดี เซ็นเตอร์  2 คน มุสตาฟี ,โรดิเกอร์ ลูกกลางอากาศดี ตัดบอลดี ฟูลแบ็ค 2 ข้าง คิมมิช ,เฮ็คเตอร์ บุกดี รับเยี่ยม  กลางเป็น โกเร็ทตา ,               โรเด่,ชดินเดิล และ แดร็กเลอร์ เร็ว ทะลุทะลวงได้ดี กองหน้า วอร์เนอร์ เร็ว คม มีส่วนร่วมกับเกม สำรอง ชาน ที่กำลังดีวันดีคืน สายเลือดใหม่ชุดนี้ จึงเป็นที่น่าจับตา ในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย การประสบความสำเร็จอย่างงดงามของชุดพลังหนุ่มชุดนี้ โดยที่ไม่มี รุ่นพี่ในทีมเลย แสดงให้เห็นว่า ทีมชาติชุดนี้ของ เยอรมัน พร้อมแล้ว ที่จะท้าทายกับทุกทีมใน ฟุตบอลโลก 2018 
         คนที่เป็นสาวกของทีมชาติ เยอรมัน ต้องคอยติดตามกันครับว่า เยอรมัน สายเลือดใหม่ ชุดนี้จะไปได้ไกล ขนาดไหน 

#ขอบคุณที่ติดตาม
#Cap.rojer13