เป็นข่าว ฮือ ฮา ตามหน้าสื่อต่างๆ ไม่น้อยนะครับ ในห้วง 2-3 วันที่ผ่านมา สำหรับ กิเลนพยอง เมืองทอง ยูไนเต็ด สโมสร ฟุตบอล ระดับแนวหน้าของไทยพรีเมียร์ลีก ที่สามารถ เอาชนะทีม
คาซิม่า แอนท์เลอร์ส ทีมดังจากแดนปลาดิบได้ในการแข่งขัน ฟุตบอลรายการ AFC แชมป์เป๊้ยน ลีก รายการฟุตบอลถ้วยใหญ่ที่สุดของเอเชีย เปรียบได้กับ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีก นั้นแหละครับ เรียกว่าเป็นการประกาศศักดา ให้โลก รู้ว่า ทีมจากไทย ก็ไม่ได้น้อยหน้าทีมใด ในเอเชีย เหมือนกัน ผลงาน 2 นัดในรอบแบ่งกลุ่มของ เมืองทอง ทำได้ดีมาก โดยมี 4 แต้ม คือ เสมอ 1 และ ชนะ 1 ทำให้ เมืองทอง นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มในขณะนี้
ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก พึ่งเริ่มต้นการแข็งขัน ได้เพียง 3 นัด โดยเริ่มเปิดฤดูกาล 2017 ในวันที่ 11 ก.พ.60 ทีมที่นำเป็นจ่าฝูงอยู่ตอนนี้ คือ ทีม อุบล ยูเอ็มที ,เมืองทอง ,เชียงราย และ บุรีรัมภ์ ตามลำดับ ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล ทีมต่างๆได้เสริมทัพ กันแบบคึกคัก โดย เฉพาะเชียงราย ยูไนเต็ด ที่สร้างดีล ช็อควงการ ด้วยการไปคว้าเอาตัว ธนบูรณ์ เกศารัตน์ กองหลัง ดีกรีทีมชาติไทย จาก เมืองทอง ยูไนเต็ด มาด้วยค่าตัวประมาณ 50 ล้านบาท (ไม่เปิดเผยข้อมูลที่แน่ชัด) ถือว่าเป็นนักฟุตบอลที่มีค่าต้วสูงที่สุด สำหรับวงการฟุตบอลไทย ทีมเชียงรายปีนี้ ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยการร่วมทุนกับ บริษัทสิงห์ คอร์ปเรชั่น ได้ทำการปรับปรุงทีม ใหม่หมด เรียกว่า ปฏิวัติกันเลยที่เดียว (คุ้นๆนะคำนี้ 555) ไม่ว่าจะเป็น สนามแข่งขัน ตัวผู้เล่น และ ระบบบริหารจัดการ ทั้งหมดในทีม เป้าหมายคือ สร้างทีมให้มีมาตราฐานทัดเทียม ทีมชั้นนำในเอเชีย เพื่อยกระดับทีมของไทย ให้ต่อสู้กับทีมอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ได้
ใน 2-3 ปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่า เป็นปีทอง ของวงการฟุตบอลไทย ทั้งในระดับชาติ และ ระดับสโมสร ผลงานในระดับชาติทำได้ดีมากๆ จึงเรียกศรัทธาของแฟนบอลกลับมาได้ อันนี้ต้องยกเครดิต ให้ โค้ช ซิโก้ เกรียติศักด์ เสนาเมือง ที่สามารถปุกปั้น และ เปลี่ยนแปลงทีม ให้พัฒนาขึ้นมาได้มาก การที่ผลงานในระดับชาติ ดีนั้นผมคิดว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก ฟุตบอลลีกภายในประเทศของเรามีความเข็มแข็ง มากขึ้น ช่วยยกระดับศักยภาพของนักเตะให้มีมาตราฐาน ก่อนที่จะมีฟุตบอลลีก เป็นเรื่องเป็นราวนั้น เมื่อก่อนทีมชาติไทย ใช้ระบบการคัดตัว คือ เปิดรับสมัครนักเตะเข้ามาคัดตัวแข่งขันกัน เพื่อติดทีมชาติ โดยมีเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งระบบนี้เอื้อต่อการทุจริต ใช้ระบบพวกพ้อง จะเห็นได้ว่า จะมีแต่ผู้เล่นที่เล่นอยู่ในส่วนกลางซะเป็นส่วนใหญ่ เหล่านักเตะ โนเนมจากภููมิภาคมักจะไม่ได้รับโอกาส ในการติดทีมชาติสักเท่าไหร่ โค้ชเองก็ไม่ค่อยมีอิสระในการทำงานมากนัก เพราะมีผู้ใหญ่ในสมาคมเป็นตัวกำหนด แต่เมื่อมีการก่อตั้งฟุตบอลลีกขึ้น ในปี 2539 โดยเริ่มต้นมีทีมที่เข้าร่วม จำนวน 10 ทีม แล้วก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนปัจจุบันมีทั้งหมด 18 ทีม ระบบการคัดเลือกนักเตะจึงเปิดกว้างมากขึ้น เพราะใช้ฟอร์มการเล่นเป็นตัวตัดสิน โค้ชเองก็ค่อนข้างมีอิสระในการทำทีม สามารถเลือกตัวนักเตะที่เหมาะกับสไตล์ของตัวเองได้ เมื่อมีนักเตะที่ดีและมีระบบบริหารจัดการที่ดี ก็ส่งผลทำให้ทีมชาติมีผลงานดีไปด้วย
มาพูดถึง ระดับ สโมสร กันบ้าง ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ถือว่า เป็นลีกหนึ่งที่พัฒนาได้เร็วมากในความคิดผม (เพราะไม่เคยดูลีกของเพื่อนบ้านเลย55) โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีหลัง แต่ละ สโมสรได้สร้างฐานแฟนบอลใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวน มาก โดยเฉพาะทีมที่มีเงินถุงเงินถัง ในการลงทุน และ มีเจ้าของเป็นมหาเศรษฐี อย่างเช่น เมืองทอง และ บุรีรัมย์ โดยมีการดึงผู้ชมให้เข้ามามีส่วนร่วม และ พัฒนากีฬาฟุตบอล ให้เป็นในเชิงพานิชย์มากขึ้น การดึงผู้เล่นต่างชาติที่มีชื่อเสียงเข้ามาร่วมทีม ทำให้มีคนอยากติดตาม ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของการดึงผู้เล่นต่างชาติเข้ามา คือ มีส่วนช่วยพัฒนาผู้เล่นในประเทศของเราให้ดียิ่งขึ้น การได้ฝึกซ้อม ได้ร่วมเล่นกับนักเตะ เก่งๆ ทำให้นักเตะไทย ได้เรียนรู้เทคนิค ประสบการณ์ต่าง มากมาย ทีมที่เป็นอันดับ 1 ที่สามารถยกระดับสโมสรของไทย ขึ้นมาให้เป็นทีมมาตราฐานได้ คือ ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ของ ท่าน เนวิน อันนี้ผมขอชื่นชมในวิสัยทัศน์ และ ความทุ่มเทของท่านนะครับ ที่ได้นำกีฬา มามีส่วนช่วยพัฒนาภูมิภาค ให้เป็นที่รู้จัก มากขึ้น
การที่สโมสรฟุตบอลไทย จะก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับสากลได้ แต่ละสโมสร จะต้องผ่านการตรวจสอบและรับรอง จาก สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ที่มีกฏเกณฑ์ พิจารณามาตราฐาน สโมสรฟุตบอลอาชีพ เรียกว่า คลับ ไลเซนซิ่่ง ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการที่ทีม จะสามารถเข้าไปร่วมเล่นในระดับนานาชาติได้ ในปัจจุบันในประเทศไทย มีอยู่เพียง 4 สโมสร ที่ผ่านการตรวจสอบนี้ คือ บุรีรัมย์ ,เมืองทอง,ชลบุรี และ บางกอก กลาส เท่านั้น การที่ทีมจะสามารถผ่านการตรวจสอบและรับรองจาก AFC ได้นั้นต้องผ่านหลักเกณฑ์ใหญ่ๆ 5 ข้อ ดังนี้
1. ด้านกีฬา
เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับผู้เล่นของทีมว่ามีสัญญานักกีฬาอาชีพชัดเจน มีโครงการพัฒนาผู้เล่นเยาวชน และดูแลผู้เล่นในสังกัดได้ตามมาตรฐาน
2. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่สโมสรฟุตบอลอาชีพจำเป้นต้องมีไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสนามที่ได้มาตรฐาน เรื่องใบอณุญาตสิ่งปลูกสร้าง การจัดสรรพื้นที่ที่ใช้ในวันแข่งขัน รวมถึงเรื่องความปลอดภัย
3. ด้านการดูแลบุคลากร
จำเป็นต้องมีที่ทำการและฝ่ายธุรการของสโมสร มีผังองค์กรที่ชัดเจน ทั้งในส่วนธุรกิจ และส่วนของกีฬา และบุคลากรในแต่ละตำแหน่ง เอเอฟซี ยังได้มีการกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำเอาไว้อย่างชัดเจนด้วย อาทิ แพทย์ประจำทีม ผู้ฝึกสอน หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
4. ด้านกฏหมาย
เป็นข้อกำหนดที่ช่วยในเรื่องของความยุติธรรม สโมสรจำเป็นต้องลงนามในข้อกฏหมายในการเข้าร่วมการแข่งขันของทางเอเอฟซี และห้ามมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับสโมสรอื่นที่อยู่ในระบบการแข่งขันเดียวกัน รวมถึงป้องกันการทุจริคอื่นๆ
5. ด้านการเงิน
เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับการการดูแลแผนการเงินของสโมสร ทั้งเรื่องงบประมาณ รายรับ รายจ่าย หนี้สิน ต่างๆ รวมถึงความมั่นคงทางการเงิน เพื่อความชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้
ดูจากหลักเกณฑ์แล้ว ค่อนข้างจะเป็นเรื่องยาก เหมือนกัน สำหรับทีมที่มีขนาดเล็ก และมีเงินทุนไม่มากนัก ในการที่จะผ่านการรับรองมาตราฐาน ของ AFC อันนี้ก็ต้องขอเอาใจช่วย ให้ทีมเหล่านี้ค่อยๆ พัฒนากันไปก็แล้วกันนะครับ..... อย่าพึ่งหยุดพัฒนา เพื่อประเทศชาติของเรา วงการฟุตบอลของเราจะได้ก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าเรามีระบบลีกที่แข็งแรงแล้ว ก็จะสามารถพัฒนาในเรื่องอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย ทั้งในเรื่องของ เศรษฐกิจ สังคม อาชีพ ปัญหาเรื่อง ยาเสพติด ก็จะลดน้อยลงไปด้วย การนำกีฬาให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหา ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ถือเป็นวิธีการหนึ่งที่ผมคิดว่าเป็นเรืองที่ดีและควรทำเป็นอย่างยิ่ง......
ความผันอันสูงสุดของผม ในฐานะเป็นคนที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล คนหนึ่ง คือการได้เห็น
"ฟุตบอลไทย....ได้ไปฟุตบอลโลก" เหมือนกับทุกคนในประเทศนี้
ผมจึงอยากให้ทุกคนได้มีส่วนช่วยกันพัฒนาวงการฟุตบอลในบ้านเรา การมีน้ำใจนักกีฬา "รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย" เป็นเรื่องที่เราทุกคนจะต้องมีในจิตสำนึกของตัวเอง ดูกีฬาให้เป็นกีฬา อย่าดูกีฬาเพื่อหวังอะไรบางอย่าง แล้วทำให้กีฬาเป็นเครื่องมือ ในการทำลายความสามัคคีของเรา ประเทศไทย บอบช้ำมามากพอแล้วนะครับ เราหยุดนิ่ง อยู่กับที่มานาน จนคนที่ตามหลังเรามาแซงหน้าเราไปแล้ว เพราะเราทุกคน มั่วแต่เห็นประโยชน์ ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง ถึงเวลาแล้วครับ ที่เราจะช่วยกันเปลี่ยนแปลงอดีตที่เลวร้าย ให้กลายมาเป็น อนาคตที่สดใส ประเทศไทย 4.0 จะได้ ก้าวไกลไประดับโลก
#ขอบคุณที่ติดตาม
#Pairoj13
#ขอบคุณข้อมูลจาก www.goal.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น