วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2560

เทศ หรือ ไทย ใครดีกว่ากัน.............

       การเปลี่ยนแปลงในวงการฟุตบอลไทย ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ โค้ช ซิโก้ เกียรติศักดิ์  เสนาเมือง ได้ประกาศยุติบทบาท หัวหน้าผู้ฝึกสอน ฟุตบอลทีมชาติไทยเรียบร้อยแล้ว ผ่านอินสตราแกรม ส่วนตัว
หลังจากคุมทีม นาน 5 ปี จากกรณีนี้ก็มีข่าวคราวออกมา ซักระยะหนึ่งแล้วว่าทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะไม่ต่อสัญญาให้กับ โค้ช ซิโก้ โดยท่าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคม มีความต้องการที่จะเปลียนแปลง วงการฟุตบอลไทยให้พัฒนาขึ้นมากกว่าเดิม ประกอบกับ ผลงานในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ทีมไทย ทำผลงานได้ไม่ดี ก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับข่าวที่ออกมามากขึ้น


ถึงจะยังไม่มีการหารือ ระหว่าง โค้ช ซิโก้ กับ สมาคมฟุตบอล เกิดขึ้น แต่ทั้งสองฝ่าย ก็มีการให้สัมภาษณ์ ออกมาในแนวบอกเป็นนัยว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน โดยเฉพาะทางฝั่งของ ท่านนายก สมาคมฟุตบอล ทางด้านฝั่ง ของ โค้ช ซิโก้ เองก็ดูเหมือนจะรู้ชะตากรรมตัวเอง ก็เลย ชิง ประกาศ       ลาออก ซะตั้งแต่เนินๆ ก่อนที่จะมีการปลด เกิดขึ้น ซึ่งการลาออก ของ ซิโก้ ส่งผลดีกับ ตัวของ ซิโก้เอง คือ เป็นการแสดงสปิริตในตัวเขาเอง ด้วยการเลือก จบแบบ ศพสวย ว่างั้นเถอะ หากเขารอให้สมาคมฟุตบอล ปลดออกจาก ตำแหน่ง เขาเองก็จะเสียประวัติ และอาจจะเกิดความขุ่นข้องหมองใจกันมากกว่าเดิม จะเป็นการจากกันที่ดูไม่ดีเท่าไหร่นัก

มาว่ากันในหัวข้อของเราในบทความนี้กันดีกว่าครับ จากนี้ไป สมาคมฟุตบอลไทย จะหาใครมาทำหน้าที่ต่อ จาก โค้ช ซิโก้ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันอย่างถี่ถ้วน เพราะผลงานที่ผ่านมาของ โค้ช ซิโก้ ที่ทำไว้นั้น เรียกว่า ประสบผลสำเร็จ เป็นอย่างมาก ทั้ง การพาทีมเป็นแชมป์ซีเกมซ์, แชมป์ซูซูกิ คัพ และ ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย ได้สำเร็จ ก่อนจะตกรอบไปแบบ       น่าเสียดาย แต่ประเด็นสำคัญที่ ท่านนายกสมาคม ต้องการคือ การพัฒนาฟุตบอลทีมชาติไทย ให้ก้าวไปประสบความสำเร็จในระดับทวีปเอเชียให้ได้ โดยท่านได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า "ถ้าเข้ามาแล้วไม่ได้พัฒนาอะไรเลย จะเข้ามาทำไม" ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงไปตรงมา ตามนิสัยส่วนตัวของท่านเอง การเลือกบุคคลที่จะเข้ามาสานต่องานของ โค้ช ซิโก้ ให้พัฒนาต่อไปนั้น ต้องมีกำหนดกฏเกณฑ์อะไรบ้าง บทความนี้ผมมีข้อพิจารณามาให้ทุกท่านได้ลองคิดกันเล่นๆ ว่า จะเป็นใครดี   ระหว่าง โค้ช คนไทย หรือ โค้ช ต่างประเทศ  โดยข้อดี ข้อเสีย ที่ผมใช้ปัญญาที่ดูจะมีน้อยของผม คิดออกมามีดังนี้ครับ 

*********************************************************************************
โค้ช คนไทย
ข้อดี : 
1.รู้ศักยภาพของนักเตะทุกคนดี กว่าชาวต่างชาติ
2.สื่อสาร ระบบแผนการเล่น แท็กติก ต่างๆ กับนักเตะ ได้ดีกว่า เพราะใช้ภาษาเดียวกัน
3.มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับนักเตะ ทำให้บรรยากาศภายในทีมดี
4.ไม่ต้องเสียเวลาศึกษานักเตะว่าใครเป็นยังไง เพราะได้ดูฟอร์มการเล่นเป็นประจำ

ข้อเสีย:
1.มาตราฐานอาจจะสู้โค้ชต่างชาติไม่ได้
2.ขาดประสบการณ์ในระดับนานาชาติ
3.อาจจะไม่มีอิสระในการทำงานมากนัก เพราะโดนกดดันจากหลายฝ่าย อาจทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่
4.รูปแบบการฝึกซ้อม หรือ การพัฒนาศักยภาพนักเตะ อาจจะไม่ครบวงจร

*********************************************************************************
โค้ช ต่างชาติ

ข้อดี :
1.ค่อนข้างจะมีมาตราฐาน ผ่านการรับรอง
2.มีประสบการณ์ในฟุตบอลระดับสูง
3.มีระบบการฝึกซ้อม การพัฒนานักเตะ มีมาตราฐาน ทำให้นักเตะได้พัฒนาตัวเองมากขึ้น
4.ค่อนข้างจะมีอิสระในการทำงาน เพราะ ฝรั่งเวลาเข้ารับงานมักจะเน้นเงื่อนไขในข้อนี้เป็นสำคัญ ทำให้สามารถทำสิ่งที่ต้องการได้อย่างเต็มที่

ข้อเสีย:
1.อาจมีปัญหาเรื่องสื่อสารกับนักเตะ ต้องใช่ล่ามในการแปล ซึ่งอาจจะไม่ตรงตามความต้องการของโค้ช
2.อาจต้องใช้เวลาในเลือกนักเตะพอสมควรเพราะต้องศึกษาดูฟอร์มการเล่นนักเตะอย่างต่อเนื่อง
3.อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับระบบการทำงานของคนไทย
4.ต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับสภาพแวดล้อม ของเมืองไทย

*********************************************************************************
จากการวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของผม ทุกคนคิดยังไงกันบ้าง จะเพิ่มเติมเสริมแต่งตรงไหน ก็เสนอความคิดกันได้เลยนะครับ ส่วนตัวผมคงคิดได้เท่านี้ ตามที่มันสมองน้อยๆของผมพอจะมี 555 จากนี้ไปก็ต้องคอยติดตามคอยลุ้นกันดูนะครับว่า เราจะได้ใคร มาเป็น โค้ชคนใหม่ ของ ทีมชาติไทย ยังไงซะก็ขอให้ตรงตามจุดประสงค์และความต้องการของแฟนบอลด้วยละกันนะครับ หากเราจะพัฒนา เราจำเป็นจะต้องพัฒนาไปพร้อมๆกัน ทั้ง ทีมฟุตบอล นักเตะ และ แฟนบอล รวมถึงทุกคนที่เกี่ยวข้อง กับวงการฟุตบอล เพื่อ ฟุตบอลทีมชาติไทยของเรา จะได้ก้าวต่อไป ได้อย่างมั่นคง ไปถึงจุดหมายที่ต้องการ ได้อย่าง
"เต็มภาคภูมิ"

#ขอบคุณที่ติดตาม
#Pairoj13







 

ไม่มีความคิดเห็น: